วันพุธที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ประวัติส่วนตัว



ชื่อ:         นางสาวกมลชนก    นามสกุล:           เกื้อกิ้ม             
รหัสนักศึกษา:        51152792095
ชื่อเล่น:   มุก     ห้อง:  BC 3    เกรดเฉลี่ย:      2.03
วัน/เดือน/ปีเกิด วันจันทร์ที่ 21  พฤษภาคม     2533  อายุ:   20   ปี
น้ำหนัก:   85   ก.ก.   ส่วนสูง: 170  ซม.  กรุ๊ปเลือด:   O   โรคประจำตัว: ไม่มี
ภูมิลำเนา:  60/180 ซอย8/1 ถนนยุทธศาสตร์ ตำบลปากแพรก อำเภอทุ่งสง
จังหวัดนครศรีธรรมราช 80110
ที่อยู่ปัจจุบัน:   165 จรัลสนิทวงศ์ 65 แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร 10700
E-mail:  mook_605@hotmail.com     
เบอร์โทร 08-1079-6689
เพื่อนสนิท: (ที่สามารถติดต่อได้) นางสาวธิตยา     ลักษณะเกียรติ
เบอร์โทร: 083-913-7237 งานอดิเรก เล่นอินเทอร์เน็ต
คติประจำใจ: ทำทุกวันให้ดีที่สุด

วันอาทิตย์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2553

บุคลิกภาพสไตล์ BIZCOM

บุคลิกภาพเป็นเรื่องของภาพรวมที่ตัวเราแสดงออกไป ทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว โดยมีคนอื่นมองอยู่ หรือรู้สึกกับสิ่งที่เราแสดงออก ดังนั้น จึงต้องมีการระมัดระวังและตกแต่งเสริมเติมให้บุคลิกภาพของเรายิ่งน่ามอง และเป็นที่ประทับใจของคนรอบตัว  ใครก็อยากมีบุคลิกภาพดี 
1. การมอง
                สายตาสามารถบอกถึงความรัก ความเกลียดชัง ความเมตตาปรานี ความโกรธแค้น ความเคารพนับถือ หรือความเหยียดหยาม ดูหมิ่นดูแคลนได้ ฉะนั้น เมื่อเราจะมองใคร เราจะต้องพยายามใช้สายตาด้วยความสุภาพเรียบร้อย ระวังในการใช้สายตาอย่าให้คนอื่นเกิดความเข้าใจผิดหรือรู้สึกติดลบได้
2. การแต่งกาย 
         การแต่งกายบ่งบอกความพิถีพิถันและเอาใจใส่ตัวเอง ช่วยทำให้คนคนหนึ่งดูดีหรือดูแย่ได้ ทุกครั้งที่เลือกเครื่องแต่งกายหรือกำลังจะแต่งกาย ให้ต้องคำนึงถึงความสะอาดเรียบร้อย ถูกต้องและเหมาะสมกับกาลเทศะ แต่งกายให้พอดี อย่าให้มากเกินไปหรือน้อยเกินไปจนกลายเป็นน่าเกลียด
3. การพูด          ต้องมีศิลปะในการพูด พูดให้ชนะใจผู้ฟัง โดยจะต้องใช้คำพูดที่มีเหตุผล สุภาพ ไพเราะ มีน้ำเสียงชวนฟัง เสียงดังฟังชัด ฉะฉาน และใช้คำพูดที่เหมาะสมกับผู้ฟัง โดยคำนึงถึงวัย เพศ ระดับการศึกษา อาชีพ และความสนใจพิเศษของผู้ฟัง ทั้งยังต้องคำนึงถึงสถานที่ เวลา และโอกาสด้วย
4. การเดิน
         ให้เดินตัวตรง อกผายไหล่ผึ่งเพื่อให้ดูสง่า แต่ไม่ต้องถึงกับหลังตรงตัวแข็งเหมือนนักเรียนนายร้อย เดินให้มีท่าทางสง่าและเรียบร้อย เวลาเดินให้ก้าวเท้ายาวพอประมาณ และสอดคล้องกับเสื้อผ้าหรือรองเท้าที่สวมใส่ ว่าก้าแค่ไหนจึงดูคล่องแคล่วและปลอดภัย  ต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดเสียงดังจนเกินไป เพราะเสียงฝีเท้าจะไปรบกวนผู้อื่น ไม่เดินผ่ากลางผู้อื่นที่ยืนสนทนากันอยู่
5. การแสดงท่าทาง          ต้องระวังท่าทางที่ไม่สวยงาม เวลาพูดหรือทำอะไรก็ตาม อย่ามีการแสดงท่าประกอบมากเกินไปจนน่าเกลียด หรือแสดงท่าที่ไม่สุภาพ ท่าทางที่ดีจะต้องมาจากพื้นฐานของความสงบ สำรวม ให้เกียรติทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น ควรมีท่าทางประกอบเพื่อให้ดูผ่อนคลาย เป็นธรรมชาติ สง่า และเสริมในสิ่งที่พูดหรือเล่า นอกเหนือจากนั้นอาจไม่จำเป็นต้องมีท่าทางประกอบแต่อย่างใด
       
6. ทักษะในการทำงาน
         ในการทำงานใดๆ ก็ตามจะต้องทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะดีได้ ต้องทำด้วยท่าทางคล่องแคล่ว ด้วยความชำนาญ และให้ได้ผลงานดีเด่น ทำด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ อย่าให้น้อยไปกว่าความสามารถที่เรามีหรือทำได้ ความน่าชื่นใจของผู้ร่วมงานหรือหัวหน้างานทุกคนก็คือ การมีเพื่อนร่วมงานหรือลูกน้องที่ทำงาน "เต็มความสามารถ" อยู่ตลอดเวลา นั่นคือบุคลิกแห่งความสำเร็จ


วันเสาร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ลูกแรดเตรียมพร้อมล่าเหยื่อ

                  บรรยายครั้งที่ปฐมนิเทศ (วันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ.2553) 
ณ หอประชุมรัตะกนิษฐ์ มหาวิทยาลัยราชฏักสวนดุสิต
บรรยายเรื่อง “มารู้จักสวนดุสิตกันเถอะ” โดย อ.สาระ มีผลกิจ 
ในวันนี้เป็นวันปฐมนิเทศนักศึกษาทุกคนโดยเนื้อหาส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับในเรื่องของการเตรียมความพร้อมในการเรียนวิชาเตรียมฝึกประสบการณ์วิชาชีพบริหารธุรกิจ โดยอธิบายถึงเรื่อง การมาเข้าเรียน การขาดเรียน การแต่งกาย จากนั้นอาจารย์ก็บรรยายเกี่ยวกับ "มารู้จักสวนดุสิตกันเถอะ”  โดย อ.สาระ  กิจมีผล อาจารย์ได้พูดถึงประวัติของมหาวิทยาลัยราชฏักสวนดุสิตและเรื่องราวเล่าขานต่าง ๆ มากมาย ที่นักศึกษายังไม่รู้ เช่น ตึกเยาวภามีประวัติความเป็นมาอย่างไร คลองที่ตัดผ่านหน้าอาคารเรียนรวม 32 มีมาอย่างไร
                  ความรู้ที่ได้รับ :  ได้เรียนรู้การแต่งกายที่ถูกต้องตามระเบียบของมหาวิทยาลัย รู้จักการเตรียมตัวและฝึกตนเองมีวินัย และมีความรู้ในเรื่องของประวัติมหาวิทยาลัยราชฏักสวนดุสิตมากยิ่งขึ้น
บรรยายครั้งที่ 2(วันที่ 14 กรกฏาคม พ.ศ.2553)
ณ หอประชุมรัตะกนิษฐ์ มหาวิทยาลัยราชฏักสวนดุสิต
บรรยายเรื่อง “การประกันคุณภาพและการพัฒนาบุคลิกภาพ คุณธรรมจริยธรรมและ ธนาคารความดี” โดย ผ.ศ.โรจนา ศุขะพันธุ์
                เรื่องที่ 1 “การประกันคุณภาพและการพัฒนาบุคลิกภาพ คุณธรรมจริยธรรม” ได้พูดถึงการมีบุคลิกภาพที่ดีสไตล์สวนดุสิต ต้องมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่ดี รักและหวงแหนในสถาบันการศึกษาของตนเอง
                เรื่องที่ 2 “ธนาคารความดี” ได้พูดถึงการทำความดีมีจิตใจเอื้อเฟื่อเผื่อแผ่แก่ผู้คนรอบข้าง คิดดีทำดีก็จะมีแต่เรื่องที่ดีๆเข้ามาในชีวิต
                 ความรู้ที่ได้รับ: ได้รู้จักการวางตัวและมีบุคลิกภพที่ดี สามารถนำคุณลักษณะอันพึงประสงค์มาปรับปรุงกับตนเองให้ดียิ่งขึ้น ได้รู้การทำความดีแก่คนรอบข้างมากยิ่งขึ้น
                   
                       บรรยายครั้งที่ 3 (วันที่  28  กรกฏาคม  พ.ศ.2553)
ณ หอประชุมรัตะกนิษฐ์ มหาวิทยาลัยราชฏักสวนดุสิต
บรรยายเรื่อง การบริหารการเงินส่วนบุคคล”  โดย คุณกษม ภูติจินดานันท์ 
                ได้บรรยายถึงการวางแผนในการเก็บออมเงิน การวางแผนกลยุทธ์ในการลงทุนอะไรสักอย่าง เราควรเก็บออมเงินอย่างไรให้เหมาะกับเงินที่เรามีอยู่ เป้าหมายในการเก็บออมจะเป็นระยะสั้น ระยะยาวหรือระยะฉุกเฉิน
                 ความรู้ที่ได้รับ : ได้รู้จักการออมเงินที่ถูกต้องและเหมาะสมกับเงินที่ได้รับมา การบริหารการใช้เงินที่ดีและมีประโยชน์ต่อตนเอง
การบรรยายครั้งที่ 4 (วันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ.2553)
ณ หอประชุมรัตะกนิษฐ์ มหาวิทยาลัยราชฏักสวนดุสิต
บรรยายเรื่อง “ภาษาไทยในชีวิตประจำวัน” โดย คุณครูปรีชา ล่วงลือ

                ได้บรรยายเกี่ยวกับการใช้ภาไทยในชีวิตประจำวัน การใช้ภาษาที่ผิดๆของวัยรุ่นส่วนใหญ่ การเขียนภาษาไทยให้ถูกต้องตามหลักที่กำหนดไว้
                ความรู้ที่ได้รับ : ได้รู้หลักภาษาไทยมากยิ่งขึ้น การใช้ภาษาไทยที่ถูกต้องตามหลัก การเขียนภาษาไทยที่ถูกต้องและสวยงาม


การบรรยายครั้งที่ 5 (วันที่ 1 กันยายน พ.ศ.2553)
ณ หอประชุมรัตะกนิษฐ์ มหาวิทยาลัยราชฏักสวนดุสิต
บรรยายเรื่อง “จรรยาบรรณวิชาชีพกับธรรมะ”โดยหลวงปู่ พุทธะอิสระกับ
คุณ มนัส ตั้งสุข  ผู้ประกาศข่าวช่อง 5
ในวันนี้ได้ฟังการเสวนาเรื่อง "จรรยาบรรณวิชาชีพกับธรรมมะ" ได้พูดถึงวิธีการการบริหารการจัดการ การจัดการอารมณ์ตนเองไม่ใช่ไปจัดการอารมณ์คนอื่นมีความตั้งใจ มีความรับผิดชอบชั่วดี ตอบแทนคุณบิดา มารดา มีความซื่อสัตย์ ความซื่อตรง ต้องมีการบริหารอารมณ์ชีวิตและเวลา
                ความรู้ที่ได้รับ : ได้นำหลักคำสอนมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน และรู้จักการปรับอารมณ์ให้อยู่กับเนื้อกับตัว  การบริหารจัดการอารมณ์ที่ดี รู้จักการตอบแทนคุณแก่ผู้มีพระคุณกับเรา